นายพชรพรรธนประเทศ(ทนายช้างขอนแก่น)
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  |  
 ตะกร้าสินค้า (0)

คลิกใช้งาน

คลิกเพื่อยกเลิกใช้งาน   สังเกตุหรือเปล่าว่า ความผิดต่อกฎหมายอาญานั้นส่วนใหญ่จะมาจากการกระทำโดยผิดศีล 5 ได้แก่ ข้อที่ 1.ห้ามฆ่าสัตว์ ข้อที่ 2.ห้ามลักทรัพย์ ข้อที่ 3 ห้ามประพฤติผิดในกาม ข้อที่ 4.ห้ามพูดปดโกหก ข้อที่ 5.ห้ามดื่มสุราของมึนเมา ล้วนเป็นการกระทำมิชอบด้วยกฎหมายด้วยในตัว

คุณทราบไหมว่าเมื่อเขาพูดเช่นนี้ ผู้พิพากษาจะตอบว่าอย่างไร

ผู้พิพากษาตอบว่า "การรักษากฎหมายเป็นหน้าที่ของคุณอยู่แล้วมันลบล้างคดีที่คุณทำมาไม่ได้หรอก  มันช่วยได้เพียงทำให้ข้อหาของคุณอยู่ตัวไม่เพิ่มขึ้นเท่านั้น...

คุณเห็นหรือยังว่าการทำดี(ประโยชน์ต่อบ้านเมือง)ของคุณนั้นไม่สามารถลบล้างความบาป(ความผิดต่อกฎหมายหรือมิชอบด้วยกฎหมาย) เพราะการทำดีนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์เราที่พระเจ้า(สิ่งศักดิ์สิทธิ์)ปรารถนาให้เราทำอยู่แล้ว....  การทำดีของคุณนั้นมันช่วยได้เพียงอย่างเดียวคือทำให้ข้อหาบาป(ความผิดกฎหมายอาญา)ของคุณอยู่ตัว ไม่เพิ่มขึ้นแค่นั้นเอง

จำเลยพูดว่า "โอ้โห  ถ้าเช่นนั้นผมจะทำอย่างไรจึงจะพ้นจากคำพิพากษาของท่านผู้พิพากษาหรือพ้นจากการพิพากษาของพระพุทธเจ้าได้ล่ะครับ

แต่อย่าพึ่งตกใจกลัวนะครับ  วันนี้ผมมีข่าวดีจะมาบอกให้คุณทราบว่รา  ท่านผู้พิพากษามีความปราณี ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนมาก ท่านผู้พิพากษาดำรงความยุติธรรม เพราะเหตุที่มนุษย์เราทำความผิดบาป จึงต้องถูกพิพากษาลงโทษ จึงได้กำหนดวิธีที่จะจำเลยหรือผู้ต้องหาอย่างเราๆ  ให้รอดพ้นจากการพิพากษาลงโทษนั้น

ท่านจำเลยหรือผู้ต้องหาทุกท่านครับ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราทุกคนนั้นล้วนแต่เป็นคนต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาแผ่นดินทั้งสิ้น  และเราไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองให้พ้นจากความบาปได้เลย แต่ท่านผู้พิพากษาท่านรักและให้โอกาสแก่เราที่จะพ้นจากการลงโทษในตะรางได้

ถ้าคุณต้องการ ก็ขอให้คุณอธิฐานหรือรับสารภาพต่อท่านดังนี้  "ข้าพเจ้าจำเลยหรือผู้ต้องหา   วันนี้ข้าพเจ้าช่วยตัวเองให้พ้นจากความผิดอาญาแผ่นดินไม่ได้  ขอท่านผู้พิพากษาโปรดอภัยโทษในความผิดให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด  ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด"

ถ้าท่านได้รับสารภาพด้วยความจริงในแล้ว ก็ขอให้ท่านมั่นใจเถิดว่า ท่านผู้พิพากษาจะได้อภัยโทษรอลงอาญาในความผิดให้แก่ท่านแล้ว เพียงแต่ท่านติดต่อสอบถามปรึกษาขอคำแนะนำตามเวบไซท์นี้

Google
               

     
Online: 2  
Visits: 75,249  
Today: 3  
PageView/Month: 822  
Last Update: 8/1/2554     

   Main webboard   »   กฎแห่งกรรม
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:   ตอนที่ 1กำเนิดพระศรีอริยะเมตรัย เส้นทางพระพุทธเจ้า  (Read: 3464 times - Reply: 0 comments)   
นายพชร (Admin)

Posts: 18 topics
Joined: 30/11/2553

ตอนที่ 1กำเนิดพระศรีอริยะเมตรัย เส้นทางพระพุทธเจ้า
« Thread Started on 26/12/2553 22:07:00 IP : 125.26.157.152 »
 

พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 1 "เกริ่นนำ"
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        สำหรับเรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น ถ้าใครที่เคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องราวของพระองค์มาก่อนหน้านี้ ก็คงพอจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า พระองค์ คือ บุคคลที่จะมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป และยังถือเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายของภัทรกัปนี้อีกด้วย ซึ่งเรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตรย์ รวมถึงเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละพระองค์นั้น ถือเป็นเรื่องราวที่พวกเราชาวพุทธทุกๆคนควรจะรู้ และจำเป็นต้องรู้ เพื่อที่เราจะได้นำเอาเรื่องราวการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ มาเป็น ทิฏฐานุคติ หรือเอามาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของพวกเราชาวพุทธรวม ถึงชาวโลกทุกคนด้วย
 
        เรื่องราวทั้งหมดที่นำมากล่าวนี้ มีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ทั้งที่เป็นเนื้อความจากพระไตรปิฎก, อรรถกถา และในพระคัมภีร์
 
        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมีลักษณะมหาบุรุษเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงขนาด ตามกำลังแห่งพระบารมีที่พระองค์ทรงสั่งสมมา ตั้งแต่พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 20-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป พระสัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 40-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป และ พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 80-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป
 
        พระศรีอริยเมตไตรย์ ท่านเป็นพระวิริยาธิกพุทธเจ้า ซึ่งใช้เวลาในการสร้างบารมีมากกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ถึงสี่เท่า เพราะฉะนั้น จะเหมือนกันแค่ลักษณะมหาบุรุษ พระฉัพพรรณรังสีที่เปล่งตามปกติจะต่างกัน ความสว่างจากพระวรกายจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับกำลังบารมี การบังเกิดของท่านก็จะแตกต่างกัน แต่บรรลุธรรมเหมือนกัน ความรู้เดียวกัน คือ ความรู้ที่จะดับกิเลส หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จะเหมือนกันไม่แตกต่างกัน อีกทั้งการเดินทางไปสู่อายตนนิพพานก็จะเหมือนกัน
 
        ความแตกต่างกันอีกประหนึ่ง คือ โลกในยุคนี้กับโลกในยุคนั้น จะแตกต่างกันทั้ง อากาสโลก ขันธโลก และสัตวโลก กล่าวคือ ดิน อากาศ ฟ้า ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ จะแตกต่างกัน ความเป็นอยู่ของผู้คน สังคม เศรษฐกิจ การเมือง จะแตกต่างกัน รวมไปถึงปัจจัยสี่ด้วย กระทั่ง รูปสมบัติ ลักษณะของร่างกายของมนุษย์ในยุคนี้กับมนุษย์ในยุคนั้นก็จะแตกต่างกันด้วย
 
         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ อยู่ในยุคปลายของกัปไขลง แต่พระศรีอริยเมตไตรย์ อยู่ในยุคต้นของกัปไขลง คือ อายุของมนุษย์จากอสงไขยปี ลดลงมาเหลือ แปดหมื่นปี ซึ่งเป็นระดับที่กำลังพอดีที่พระองค์จะทรงบังเกิดขึ้น การสอนธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้ก็จะเข้าใจง่าย หากมนุษย์มีอายุมากกว่านั้น การที่จะพูดถึงความไม่เที่ยง การที่จะพูดถึงเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็จะเข้าใจได้ยาก
 
        มนุษย์ที่มาเกิดในยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา คือ ยุคปลายของกัปไขลงนี้ เป็นประเภทผู้ที่อุปมาเหมือนบุญเท่ากำปั้น บาปเท่ากระบุง กล่าวคือ บุญน้อยบาปเยอะ แต่มนุษย์ที่มาเกิดในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ คือ ยุคต้นของกัปไขลง จะเป็นผู้ที่อุปมาเหมือนบุญเท่ากระบุง บาปเท่ากำปั้น จะกลับตาลปัตรกัน เพราะฉะนั้น ในเวลาที่บุญ-บาป ปรุงแต่งส่งผล ในแต่ละยุคจึงแตกต่างกัน
 
 
        การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น ถือเป็นการยากอย่างยิ่ง ถ้าจะให้อุปมา...ก็ดั่งกับการงมเข็มในมหาสมุทร กว่าจะพบเจอเข็มที่เล็กแสนเล็กในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ได้นั้น ช่างยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...กลับยากแสนยากยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีก
 
 
 
        สาเหตุที่ยากแสนยากขนาดนี้ เพราะผู้ที่จะมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีกำลังใจเปี่ยมล้นเหลือคณา มีความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบประดุจบุคคลผู้มีใจที่จะเดินก้าวข้ามห้องที่มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวาล หนทางข้างหน้าล้วนเต็มไปด้วยถ่านเพลิงอันร้อนแรง ผู้ใดมีใจที่จะก้าวข้ามไปถึงสุดห้องให้ได้โดยไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคขวากหนามอันใด ผู้นั้นย่อมสามารถเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
 
 
 
        เพราะเหตุแห่งความยากแสนยาก ในการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมากถึงเพียงนี้ โลกแต่ละยุคแต่ละสมัยที่ผ่านไปยุคแล้วยุคเล่า จนกองกระดูกของสรรพสัตว์ทั้งหลายสูงท่วมเป็นภูเขา ก็ยากที่จะมีผู้ใดได้เกิดมาพบเจอกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ในแต่ละกัปจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไม่เกินห้าพระองค์ บางกัปก็ไม่มี บางกัปก็มีเพียงพระองค์เดียว)
 
        นอกจากนั้น ในช่วงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ทุกๆพระองค์จะต้องบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวด ชนิดที่เรียกว่าทรงยอมสละทรัพย์ สละอวัยวะ สละเลือดและเนื้อ รวมถึงสละชีวิตเป็นเดิมพัน ในการสร้างบารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จนกระทั่งจิตใจมีความมุ่งมั่น และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่ถอยหลังกลับ
 
 
 
        เมื่อพระโพธิสัตว์พระองค์ใดสร้างบารมีจนมีความมุ่งมั่น และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่ถอยหลังกลับแล้ว พระโพธิสัตว์พระองค์นั้นจะต้องลงมาบังเกิดร่วมยุคสมัยกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งเสียก่อน จากนั้นจะต้องได้มีโอกาสถวายมหาทาน และตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในยุคนั้น
 
 
 
        เมื่อได้ถวายมหาทานและตั้งความปรารถนาแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในยุคสมัยนั้น ก็จะทรงสอดข่ายพระญาณเพื่อตรวจดู ด้วยอนาคตังสญาณ ครั้นทรงพิจารณาเห็นว่า “ในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า บุคคลผู้นี้จะได้มาตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง อย่างแน่นอน”_พระองค์ก็จะทรงพยากรณ์ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งตรัสบอกถึง พระนาม พระโคตร พระพุทธบิดา พระพุทธมารดา อัครสาวก-สาวิกา โพธิบัลลังก์ และระยะเวลาที่จะได้มาตรัสรู้ เป็นต้น เพื่อจะได้เป็นเครื่องยืนยันในการตรัสรู้ธรรมในอนาคต และเป็นเสมือนการให้กำลังใจในการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นต่อไป
 
 
 
        แม้พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรา ก่อนที่พระองค์จะมาตรัสรู้ พระองค์ก็ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ มาแล้วถึง 24-พระองค์ ซึ่งจะขอยกตัวอย่างในบางช่วงที่พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ สักสามพระองค์ ดังนี้
 
 
 
        ในพระชาติที่พระองค์ ได้ไปบังเกิดเป็นสุเมธดาบส และได้รับพุทธพยากรณ์จากพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในพระชาตินั้น พระองค์ได้ไปบังเกิดอยู่ในตระกูลพราหมณ์ที่มีฐานะร่ำรวยเป็นอย่างมาก เป็นสุขุมาลชาติ นอกจากจะร่ำรวยแล้ว พระองค์ยังเป็นบุคคลผู้คงแก่เรียน กล่าวคือ เรียนจบศาสตร์ต่างๆหลายแขนง
 
 
 
        เมื่อโตเป็นหนุ่ม บิดามารดาของพระองค์ก็ได้ถึงแก่กรรม พระองค์จึงได้รับมรดกทั้งหมดที่บิดาและมารดาของพระองค์ได้สั่งสมมาตลอดเจ็ดชั่วโคตร ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินหลายร้อยโกฏิ หลังจากที่พระองค์ได้รับมรดกมาแล้ว พระองค์ได้มีความคิดว่า “คนในตระกูลของเราสั่งสมทรัพย์ไว้มากมาย แต่เมื่อตายไปแล้ว...ทรัพย์แม้กหาปณะหนึ่งก็เอาติดตัวไปไม่ได้ เราควรกระทำเหตุให้ทรัพย์นี้ติดตัวเราข้ามภพข้ามชาติไปได้”
 
 
 
        พร้อมกันนั้น พระองค์ก็ได้เห็นการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย ว่ามันเป็นทุกข์แสนสาหัส พระองค์จึงมีความปรารถนาที่จะออกไปจากภพ กล่าวคือ เลิกการเวียนเกิดเวียนตายเสียที จากนั้นพระองค์ก็ได้คิดต่ออีกว่า “เมื่อทุกข์มี...สุขก็ต้องมีฉันใด เมื่อมีภพ...ก็ต้องมีทางออกจากภพได้ฉันนั้น”
 
 
 
        ดังนั้น พระองค์จึงตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกบวชเป็นดาบสหรือฤษี เมื่อออกบวชเป็นดาบสแล้ว พระองค์ก็ตั้งใจบำเพ็ญเพียร จนสามารถบรรลุอภิญญา 5_สมาบัติ 8_และมีความสุขอยู่ในฌานสมาบัติที่พระองค์ได้เข้าถึง และในกาลนั้นเอง...ได้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับพระองค์
 
 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share

กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิกก่อนโพสข้อความค่ะ
»
คลิ๊กที่นี่
   Main webboard   »   กฎแห่งกรรม
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  

แสดงกระทู้ล่าสุด  
วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
วัดป่าบ้านตาด เริ่มก่อตั้งเมื่อปี เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๘ ต่อมากระทรวงศึกษาธิการ ประกาศตั้งขึ้นเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ให้ชื่อว่า วัดเกษรศีลคุณ ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปในนาม วัดป่าบ้านตาด ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านบ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ห่างจากตัวเม ...
2098
หลวงตามหาบัว
อ่านประวัติหลวงตาฉบับเต็ม "หยดน้ำบนใบบัว" คลิกอ่านได้ที่นี่   กำเนิด ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด อุดรธานี วันเกิด ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ นาม บัว โลหิตดี พี่น้องทั้งหมด ๑๖ คน สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัว ...
1684
หลวงปู่เล่า
ตามรอยเส้นทางธรรม January 13th, 2010 | เรา (หลวงปู่เณรคำ) จะขอกล่าวความเป็นมาตั้งแต่เราได้รู้ความ การเกิดมาเป็นมนุษย์ ตั้งแต่เป็นเด็กมาเลยโดยสังเขป ให้แก่ท่านทั้งหลายได้รับฟัง พอกระชุ่มกระชวยจิต วาระจิตจะได้มีศรัทธาในการปฏิบัติบำเพ็ญภาวนา เป็นประสบการณ์นำทางชีวิตให้เกิดความสงบสุขต่อไปในอนาคต ซึ ...
2061
เส้นทางธรรม
ตามรอยเส้นทางธรรม January 13th, 2010 | ซึ่งก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะนั่งภาวนาปักกลดอยู่ริมแม่น้ำศรีสงคราม ครั้งนั้นเราบำเพ็ญอยู่ที่นั่น มีเทวดามาเป็นจำนวนมาก ทั้งพญานาค มาลักษณะเหมือนคนทั่วไปนี่แหละ แต่ว่าตาไม่มีตาดำนะ แววตาไม่มีตาดำสว่างเหมือนกับแสงเทียนเหลืองสุก ไม่กระพริบตา แต่เรารู้ว่าเป็นพญาน ...
1924
ผลการนั่งสมาธิ นั่งแล้วเห็นแบบนี้
ผลการปฏิบัติธรรม โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งล้านคน ตอน เคล็ดลับความเป็นสาวสองพันปี เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา   กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ           ฉันเป็นคนใต้ เป็นคนอารมณ์ดี อยู่จังหวัด ...
5647
อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนปี2553
โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 1 ล้านคน  บวชยอดหญิงผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก 1 ล้านคน1 ล้านทหารหญิงจักรพรรดิแห่งความดี ใบสมัครบวชอุบาสิกาแก้ว อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน   โอวาทพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)    & ...
1961
พระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายภัทรกับป์นี้(อชิตะภิกษุ)
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 20 "พระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้" เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา             ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ท่านอชิตภิกษุ...เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์ในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจา ...
5108
พระอชิตะ ได้รับพุทธยากรณ์ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 18 "พระอชิตะได้รับพุทธพยากรณ์" เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา              ความเดิมจากตอนที่แล้ว... พระนางปชาบดีโคตมีทรงรู้สึกเสียพระทัย ไม่ทรงปลื้มปีติในมหาทาน เพราะผู้ที่ได้รับ ...
3794
พระอชิตะ(สมัยพระพุทธเจ้าปัจจุบัน)ตอนที่ 16
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 16 "พระอชิตะ...บรมโพธิสัตว์" เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา             ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ด้วยความที่พระนางปชาบดีโคตมี ทรงทุ่มเทในการทำผ้าสาฎกทั้งสองผืนอย่างสุดหัวใจ แต่เมื่อ ...
5686
ตอนที่ 1กำเนิดพระศรีอริยะเมตรัย เส้นทางพระพุทธเจ้า
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 1 "เกริ่นนำ" เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา           สำหรับเรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น ถ้าใครที่เคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องราวของพระองค์มาก่อนหน้านี้ ก็คงพอจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า พระองค์ คื ...
3464
อ่านทั้งหมด ...

Advertising Zone    Close

Online: 2 Visits: 75,249 Today: 3 PageView/Month: 822

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...